8 วิธีเลือกเตาอบขนมที่มีประสิทธิภาพสูง

8 วิธีเลือกเตาอบขนมที่มีประสิทธิภาพสูง

เตาอบขนมเป็นเครื่องจักรเบเกอรีที่สำคัญในการทำขนมปัง เค้ก คุกกี้และขนมอบอื่นๆ อย่างมาก ร้านเบเกอรีจึงให้ความสำคัญกับการใช้เตาอบขนมที่มีคุณภาพสูง เพราะการเลือกเครื่องจักรเบเกอรีที่มีประสิทธิภาพ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับร้านเบเกอรีที่ต้องทำอบขนมอย่างมืออาชีพ หรือแม้กระทั่งการอบขนมที่บ้านก็ตาม วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อเครื่องอบขนมปัง เพื่อให้คุณได้เครื่องจักรเบเกอรีที่ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุดค่ะ

เลือกเตาอบขนมปังให้ตอบโจทย์การใช้งาน

  1. ประเภทของเตาอบ
  • เตาอบไฟฟ้า เป็นที่นิยมมากที่สุด ใช้งานง่าย มีทั้งแบบตั้งโต๊ะและแบบฝัง สามารถปรับอุณหภูมิและเวลาได้อย่างละเอียด
  • เตาอบแก๊ส ให้ความร้อนสูงและรวดเร็ว เหมาะสำหรับการอบขนมปังและอาหารประเภทเนื้อ แต่ควบคุมอุณหภูมิได้ยากกว่า
  • เตาอบลมร้อน มีพัดลมภายในเพื่อช่วยกระจายความร้อน ทำให้การอบสม่ำเสมอทั่วทั้งเตา เหมาะสำหรับการอบขนมประเภทต่างๆ โดยเฉพาะขนมที่ต้องการการกระจายความร้อนที่ดี
  1. ขนาดและความจุ
  • ขนาดของเตาอบ ควรพิจารณาขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่ที่มี รวมถึงปริมาณขนมที่ต้องการอบในแต่ละครั้ง หากต้องอบขนมจำนวนมาก ควรเลือกเครื่องจักรทำเบเกอรีที่มีความจุใหญ่ เช่น 50-70 ลิตรขึ้นไป
  • จำนวนชั้นวาง ตรวจสอบว่าเครื่องจักรเบเกอรีมีชั้นวางกี่ชั้น สามารถอบขนมได้พร้อมกันหลายๆ ชิ้นหรือไม่ โดยไม่ทำให้คุณภาพของขนมลดลง
  1. ระบบทำความร้อน (Heating System)
  • Convection Oven (เตาอบลมร้อน) เครื่องทำเบเกอรีมีพัดลมกระจายความร้อนทั่วเตาอบ ทำให้ความร้อนกระจายอย่างสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับการอบขนมหลายชนิด เช่น คุกกี้ หรือเค้กบางชนิด
  • Conventional Oven (เตาอบธรรมดา) เครื่องจักรเบเกอรีใช้การทำความร้อนจากด้านบนและด้านล่าง เหมาะสำหรับการอบขนมที่ต้องการความร้อนจากทิศทางเดียว เช่น ขนมปัง หรือพาย
  1. ความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิ
  • เลือกเครื่องจักรเบเกอรีที่มีระบบการควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำ และสามารถตั้งค่าอุณหภูมิได้หลากหลายระดับตามความต้องการ
  • ตรวจสอบว่าเครื่องจักรผลิตเบเกอรีมีฟังก์ชันการตั้งอุณหภูมิล่วงหน้า และระบบตั้งเวลาในการอบ เพื่อความสะดวกและประสิทธิภาพในการใช้งาน
  1. ฟังก์ชันการใช้งาน
  • ระบบคอนเวกชั่น เป็นคุณสมบัติที่ช่วยให้ความร้อนกระจายทั่วถึง ช่วยให้ขนมสุกสม่ำเสมอ
  • ตัวควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำ ฟังก์ชันนี้สำคัญมากสำหรับการอบขนมบางประเภทที่ต้องการความแม่นยำในการควบคุมอุณหภูมิ
  • โปรแกรมอบล่วงหน้า เครื่องจักรผลิตเบเกอรีบางรุ่นมาพร้อมกับโปรแกรมการทำอาหารอัตโนมัติสำหรับเมนูขนมต่างๆ เช่น อบเค้ก พิซซ่า หรือขนมปัง ซึ่งช่วยให้การทำขนมเป็นเรื่องง่ายขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ยังไม่มีประสบการณ์มากนัก
  • ประตูเตาอบแบบกระจก ช่วยให้คุณสามารถมองเห็นกระบวนการอบโดยไม่ต้องเปิดประตู ทำให้สามารถควบคุมการอบได้ดียิ่งขึ้น
  • การทำความสะอาด เลือกเครื่องจักรทำเบเกอรีที่มีฟังก์ชันทำความสะอาดอัตโนมัติ เช่น ระบบทำความสะอาดด้วยไอน้ำ (Steam Cleaning) หรือด้วยตัวเองที่มีพื้นผิวเคลือบกันติด (Non-stick)
  1. วัสดุและคุณภาพการผลิต

ควรเลือกเครื่องจักรเบเกอรีที่ทำจากวัสดุที่ทนทาน เช่น สแตนเลส ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้เตาอบแข็งแรง แต่ยังทำความสะอาดง่ายและทนทานต่อความร้อนสูง

  1. การประหยัดพลังงาน

เลือกเครื่องจักรเบเกอรีที่มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถดูได้จากป้ายแสดงระดับการใช้พลังงาน (Energy Label) ที่ระบุในผลิตภัณฑ์ เตาอบที่มีฟังก์ชัน Eco Mode จะช่วยลดการใช้พลังงานลง

  1. ราคาและการรับประกัน

ควรเปรียบเทียบราคาและฟังก์ชันต่าง ๆ ของเครื่องจักรทำเบเกอรีในงบประมาณที่กำหนด เลือกเตาอบที่มีความคุ้มค่ามากที่สุด และตรวจสอบว่ามีการรับประกันสินค้าและการบริการหลังการขายที่ดี ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานระยะยาว

การเลือกเครื่องจักรเบเกอรีที่ดีขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณ หากต้องการอบขนมปังหลากหลายชนิด ควรเลือกเครื่องจักรเบเกอรีที่มีโปรแกรมอบหลากหลาย และมีฟังก์ชันเสริมที่ครบครัน แต่ถ้าคุณต้องการเพียงแค่เตาอบขนมปังง่ายๆ สำหรับใช้ในครัวเรือน ก็สามารถเลือกเครื่องจักรผลิตเบเกอรีที่มีฟังก์ชันพื้นฐานได้

Sinmag โรงงานผลิตเครื่องจักรเบเกอรีชั้นนำของโลก ที่มีประสบการณ์มากกว่า 40 ปี ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด Sinmag จึงได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำด้านเครื่องจักรเบเกอรี พร้อมให้บริการด้านการออกแบบ การติดตั้ง และการให้คำปรึกษาเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้งานเครื่องจักรผลิตเบเกอรีได้อย่างมีประสิทธิภาพ Sinmag พร้อมดูแลทุกอุปกรณ์เบเกอรีของคุณค่ะ

สนใจติดต่อ

Tel : 02-948-4261

Line : Sinmag Equipment TH

Facebook : บริษัทซินแมกซ์อีควิปเม้นท์ประเทศไทย